ดึงหน้าแบบลึกที่สุด! “Deep Plane Lift” เทคนิคลับของคุณหมอ ลี ยอนจี สุดยอดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางย้อนวัย

aeysurgery
5 มิ.ย.
ยาว 2 นาที

ถ้าคุณเคยคิดว่าการดึงหน้าคือแค่การ 'ตัดหนังส่วนเกินแล้วเย็บกลับ'… ได้เวลาเปลี่ยนความคิดใหม่ให้หมดเลยค่ะ เพราะโลกของการศัลยกรรมดึงหน้าไม่ได้หยุดอยู่แค่ “การยกผิวให้ตึง” อีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงเทคนิคระดับสูงสุดที่เรียกว่า Deep Plane Facelift ที่ไม่ใช่แค่ยกหน้า

ให้ดูอ่อนวัย แต่คือการ “ย้อนวัยลึกถึงแกนหน้า” — แบบที่คนรอบตัวจะรู้แค่ว่าคุณดูดีขึ้น แต่เดาไม่ออกเลยว่าไปทำอะไรมาจริงๆ และหนึ่งในผู้ที่ทำเทคนิคนี้ได้อย่างเชี่ยวชาญที่สุดในเอเชีย ก็คือ คุณหมอลียอนจี (Dr. Lee Yeon Ji) จากเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการยอมรับจากเคสคนไข้ต่างชาติในฐานะ “หมอที่ทำ Deep Plane แล้วหน้าเด็กและละมุนที่สุด”

Deep Plane Facelift คืออะไร?

Deep Plane คือขั้นกว่าของการดึงหน้าแบบทั่วไป เพราะไม่ใช่แค่ “ดึง”

แต่เป็นการ “คลาย + ยก + จัดเรียงใหม่” โดยเข้าไปยกระดับในชั้นลึกกว่าใต้กล้ามเนื้อ SMAS ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ใบหน้าดูหย่อนคล้อยจริงๆ ไม่ใช่แค่หนังหย่อน สรุปง่ายๆ:ถ้าการดึงหน้าแบบเดิมคือการรีดผ้าด้านนอกให้เรียบ การทำ Deep Plane คือการดึงและจัดเส้นใยด้านในใหม่ทั้งหมดให้ผ้ากลับมา ‘ฟูและเฟิร์ม’ อย่างแท้จริงนั้นเองค่ะ

ทำไมต้อง Deep Plane? ดึงผิวอย่างเดียวไม่พอเหรอ?

ไม่พอค่ะ...เพราะพอเราอายุ 30-40 ปีขึ้นไป โครงสร้างใต้ผิวเริ่มหย่อนลงเรื่อยๆ ไขมันที่เคยอยู่สูงจะไหลลงมาข้างล่าง ทำให้เห็นเป็นร่องแก้มลึก มุมปากตก หรือหน้าดูเศร้า การดึงแค่ผิวชั้นนอก

จะช่วยแค่ให้ผิว “ตึงชั่วคราว” แต่ไม่สามารถจัดการกับไขมันที่เคลื่อนลงมาแล้วได้เลยค่ะ

Deep Plane จึงเป็นเทคนิคเดียวที่ “ยกทุกอย่างกลับไปในตำแหน่งเดิมตอนเราอายุ 20 ได้จริง”

แล้วคุณหมอลียอนจี เก่งตรงไหน?

สิ่งที่ทำให้ หมอลี ยอนจี โดดเด่นกว่าศัลยแพทย์ทั่วไปคือ:

in Facial Rejuvenation Surgery โดยเฉพาะ
ใช้เทคนิค “Custom Deep Vector Lifting” ที่วิเคราะห์แต่ละใบหน้าไม่เหมือนกัน
เข้าใจความงามแบบละมุน ไม่ยกจนตึง แต่ยกให้ “เป็นธรรมชาติในทุกมิติ”
เคสต่างชาติเยอะมาก ทั้ง ยุโรป และเอเชียที่ต้องการผลลัพธ์แนบเนียน

คุณหมอไม่ใช่แค่ “ผ่าตัดได้” แต่คือ “วางโครงหน้าใหม่ให้เข้ากับอารมณ์และอายุอย่างลงตัว”เหมือนกับการ Restore ใบหน้าให้กลับไปเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง โดยไม่มีใครดูออกค่ะ

คนที่เหมาะกับการทำ Deep Plane Facelift

การยกกระชับใบหน้าแบบ Deep Plane Facelift ไม่ใช่การดึงหน้าสำหรับ “ทุกคน” แต่เป็นเทคนิคระดับสูงที่เหมาะกับ ผู้ที่มีสภาพใบหน้าและความคาดหวังเฉพาะเจาะจง

1. คนที่มีความหย่อนคล้อยในชั้นลึกของใบหน้า

เช่น ร่องแก้มลึก, แก้มตก, มุมปากตก, กรอบหน้าไม่ชัด — ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนตัวของไขมันและกล้ามเนื้อ ไม่ใช่แค่ผิวหย่อน Deep Plane จะเข้าไป “คลายและยก” กล้ามเนื้อชั้นลึก จึงเห็นผลชัดเจนกว่าการดึงแค่ผิว

2. คนอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่สัญญาณความชราเริ่มลึกกว่าเดิม

โดยเฉพาะคนที่เคยเติมฟิลเลอร์/ไขมัน/ร้อยไหมแล้ว “ไม่รอด” หรือเริ่มรู้สึกว่าใบหน้าเปลี่ยนรูป ไม่ใช่แค่เหนื่อยล้า แต่ เหมือนตัวเองแก่กว่าที่รู้สึก Deep Plane ช่วยจัดโครงหน้าล่างให้กลับขึ้นไปด้านบนแบบเป็นธรรมชาติ เหมือนย้อนวัย 10 ปีโดยไม่แข็งค้าง

3. คนที่เคยดึงหน้าแบบธรรมดาแล้วรู้สึกไม่พอ

บางคนเคยทำ Mini-lift หรือ SMAS lift แล้วรู้สึกว่า “อยู่ได้ไม่นาน” หรือ “หน้ายกก็จริง แต่แข็ง” เพราะเทคนิคทั่วไปไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ Deep Plane จะปลดล็อกกล้ามเนื้อที่ตึงค้าง แล้วยกใหม่ในแนวธรรมชาติ ให้ดูละมุนมากยิ่งขึ้น

4. คนที่ไม่อยากพึ่งฟิลเลอร์/ไขมันไปตลอดชีวิต

หากเบื่อการเติมทุกปี และรู้สึกว่า “ยิ่งเติมยิ่งบวม หรือยิ่งเติมยิ่งเบี้ยว” Deep Plane จะเป็นทางออกที่จัดการกับโครงสร้างทั้งหมดในครั้งเดียว โดยเฉพาะคนที่ใบหน้าเริ่มย้วยจากการเติมผิดชั้นบ่อยๆ

5. คนที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาวและธรรมชาติที่สุด

ไม่ใช่ดึงจนคนรู้ว่าไปทำ แต่คือดู “สดขึ้น อ่อนโยนขึ้น เด็กลง” จนคนทักแบบไม่รู้ว่า

ไปทำอะไรมา ผลลัพธ์ของ Deep Plane สามารถอยู่ได้นาน 8–15 ปี และจะดูละมุนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้าที่

แล้วมีข้อควรระวังไหม?

ต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่เข้าใจชั้นกล้ามเนื้อใบหน้าจริง เพราะอยู่ใกล้เส้นประสาท
ฟื้นตัวช้ากว่าการยกผิวแบบทั่วไป (แต่มูลค่าที่ได้คือความอ่อนเยาว์ระยะยาว)
ราคาอาจสูงกว่าศัลยกรรมอื่น แต่คุ้มกว่าการฉีดหลายครั้งสะสม

FAQ ที่พบบ่อย

1. ถ้าฉีดฟิลเลอร์-ไหมเยอะมากก่อนหน้านี้ ยังสามารถทำ Deep Plane Facelift ได้ไหม?

คำตอบ:ได้ค่ะ แต่แพทย์จะต้องประเมินโครงสร้างใบหน้าอย่างละเอียดก่อนฟิลเลอร์หรือไหมที่ฉีดมาอาจรบกวนชั้นเนื้อเยื่อที่ต้องแยก การวางแผนผ่าตัดจึงต้องแม่นยำบางเคสอาจต้อง “สลายฟิลเลอร์” ก่อนเพื่อให้ผลลัพธ์สวยและปลอดภัยสูงสุดของคนไข้ค่ะ

2. คนที่ผอม หน้าตอบ สามารถทำ Deep Plane ได้ไหม?

คำตอบ:ได้ค่ะ และเหมาะมากในบางกรณีเพราะการยกกล้ามเนื้อและไขมันจะช่วยให้กรอบหน้าคมขึ้น และสามารถ “เติมไขมัน” ร่วมกันได้เพื่อให้ดูเต็มและอ่อนเยาว์ขึ้นข้อดีคือจะไม่ต้องเติมซ้ำบ่อยเหมือนฟิลเลอร์ค่ะ

3. Deep Plane Facelift ช่วยเรื่องร่องแก้มจริงไหม?

คำตอบ:ช่วยได้มากกว่าการดึงหน้าแบบอื่น เพราะเป็นเทคนิคเดียวที่สามารถ ยกแก้มลึกขึ้นมาทั้งก้อน (fat pad) ดังนั้นร่องแก้มจะถูกลดลึกจากโครงสร้าง ไม่ใช่แค่ “ดึงผิวให้ตื้น”ผลลัพธ์จึงดูละมุนและไม่หลอกตานั่นเองค่ะ

4. จะมีแผลให้เห็นไหม?

คำตอบ:แผลจะซ่อนอยู่บริเวณไรผมและหลังใบหูศัลยแพทย์จะเย็บตามแนวไรผมธรรมชาติและใช้ไหมพิเศษ ทำให้แผลจางจนแทบมองไม่เห็นเมื่อหายดีบางคนแต่งหน้าปิดได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2–3 ค่ะ

5. หลังทำสามารถยิ้ม พูด ขยับหน้าได้ปกติไหม?

คำตอบ:ได้ค่ะ หลังพักฟื้นไม่กี่วัน จะสามารถแสดงสีหน้า ยิ้ม หัวเราะได้เหมือนเดิมเพียงแต่ช่วงแรก

อาจรู้สึก “ตึงๆ” ที่ผิวและกล้ามเนื้อ ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นใน 2–4 สัปดาห์ ค่ะ

ถ้าอยากดูเด็กลงจริงแบบ “หรูหราแต่ไม่โป๊ะ” — Deep Plane คือตัวเลือกที่ดีที่สุด

Deep Plane Face Lift ไม่ใช่การดึงหน้าแบบด่วน ๆ แต่คือการ “วางโครงสร้างใหม่”

ให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้งอย่างปลอดภัย เป็นธรรมชาติ และยาวนาน

หากคุณกำลังคิดจะดึงหน้า ควรศึกษาเทคนิคนี้ไว้เป็นตัวเลือกที่ “ได้ผลที่สุด”

โดยเฉพาะกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่าง คุณหมอ ลี ยอนจี

ที่รู้ลึกในทุกชั้นของใบหน้า

ไม่ใช่แค่เรื่องความสวย แต่เพื่อความปลอดภัยและสมดุลโดยรวมค่ะ

รีวิวจริง จากคนไข้จริง