top of page
ค้นหา

จมูกเน่า !! กระดูกอ่อนตาย จมูกมีปัญหาหรือไม่ ต้องแก้ไขไหม มาอ่านทางนี้ค่ะ

อัปเดตเมื่อ 29 พ.ค. 2563

💓สวัสดีค่ะ💓

♥ Aey Surgery มาแล้วค่ะ ♥

👉 ปัญหาจมูก 6 แบบที่ต้องได้รับการแก้ไขมีอะไรบ้าง 👈


1. จมูกเบี้ยว ก่อนอื่นคนไข้ต้องเช็คเบื้องต้นก่อนนะคะว่าจมูกเราเบี้ยวหรือไม่ วิธีการก็คือ ให้คนไข้หาจุดกึ่งกลางระหว่างหัวคิ้วทั้งสองข้าง จุดกึ่งกลางระหว่างหัวตาทั้งสองข้าง และจุดกึ่งกลางของปาก จากนั้นก็ลากเส้นเชื่อมโยงทั้งสามจุดจากหัวคิ้วลงมาถึงกลางปาก หากพบว่าเส้นที่ลากไม่ได้อยู่บนกึ่งกลางของสันจมูกแสดงว่าจมูกของคุณเอียง การเอียงมีหลายรูปแบบค เช่น โคนเอียง ปลายเอียง และแท่งจมูกเอียงทั้งหมด โดยจมูกเบี้ยวมีหลายสาเหตุ อาทิ ฐานจมูกเดิมคดเอียงอยู่แล้ว เมื่อเสริมซิลิโคนจึงเอียงตามกัน กระดูกบริเวณส่วนกลางโหนกนูนขึ้นมา เมื่อวางแท่งซิลิโคนทำให้ซิลิโคนเลื่อนไปด้านหลังและเอียง เช่นเดียวกับผู้ที่มีโพรงจมูกไม่เท่ากัน ก็จะทำให้เกิดความชันของจมูกที่ไม่เท่ากัน และนำไปสู่จมูกเบี้ยวในที่สุด ส่วนจมูกที่มีลักษณะตรง สังเกตได้จากจุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว หัวตา และจุดกึ่งกลางของปลายจมูก จะอยู่กึ่งกลางของริมฝีปากบนพอดี

วิธีการวัดว่าจมูกตรงหรือไม่

2. จมูกใกล้ทะลุ จมูกใกล้ทะลุมีสามแบบ คือการบางใสตรงปลาย แดงเป็นวงกลมตรงดั้ง และทะลุออกมาจากด้านในรูจมูก ซึ่งต้องเช็คทั้งสามจุดค่ะ สาเหตุของการทะลุมาจากแท่งซิลิโคนยาวเกินพอดี ทำให้ส่วนปลายจมูกแหลมเกินไปหรือมีลักษณะใสจนเกือบเห็นเนื้อซิลิโคน ซึ่งอาจเกิดจากความไม่ชำนาญและขาดประสบการณ์ของแพทย์ที่เลือกแท่งซิลิโคนที่โด่งเกินไปไม่เหมาะสมกับลักษณะจมูกของคนไข้ หรือเลือกใช้วัสดุด้อยคุณภาพ แข็งเกินไป เพื่อประหยัดงบ ขณะเดียวกัน หากคนไข้ไม่ดูแลตนเอง เช่นสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ดูแลทำความสะอาด ก็ทำให้จมูกอักเสบและเป็นสาเหตุให้ทะลุได้เช่นกัน การสังเกตจมูกทะลุสังเกตได้ 10 วิธีดังนั้น 1. ดูปลายจมูกว่าบางหรือไม่ 2. ลูบปลายจมูกแล้วเสียว 3. สีปลายจมูกเปลี่ยนไปเช่นแดงหรือขาว 4. รูปร่างของจมูกเปลี่ยนแปลงไป 5. จมูกเป็นคลื่นตะปุ่มตะป่ำ 6. จมูกไหลลงยาวและงุ้มขึ้น 7. จมูกมีส่วนบุบที่เป็นมากขึ้น 8. สิวอักเสบขึ้นที่จมูก 9. มองเห็นเป็นเงาของซิลิโคนชัดเจน 10. ซิลิโคนทะลุออกมาเห็นได้เลยไม่ว่าจะที่ปลายจมูกหรือในรูจมูก

ซิลิโคนใกล้ทะลุ

3. จมูกติดเชื้อ หลังทำจมูกอาจจะมีเลือดไหลซึมได้ประมาณ 4 วันหลังผ่าตัด แต่หลังจากนั้นจะต้องไม่มีเลือด น้ำ หรือน้ำเหลืองต่างๆไหลอีก ดังนั้นถ้ามีน้ำไหล บวมขึ้น แดงขึ้น ใหญ่ขึ้น อาจจะแสดงว่าจมูกมีปัญหาภายในหรือติดเชื้อค่ะ ซึ่งสาเหตุของการติดเชื้ออาจจะมาจากหลายสาเหตุ เช่นการติดเชื้อระหว่างผ่าตัด การติดเชื้อหลังจากผ่าตัด การรับประทานอาหารต้องห้าม เช่นแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ อีกทั้งของแสลงทั้งหลายก็เช่นกัน หรือการแคะแกะเกาจมูก จับแผลทำให้เชื้อเข้าไป หรืออาการป่วยเช่นการเป็นหวัด ไอรุนแรง การกระทบกระเทือนจากภายนอกก็เช่นกันค่ะ การสังเกตว่าจมูกติดเชื้อหรือไม่ดูได้ 7 วิธี 1. ดูเหมือนมีสิวบวมแดงที่ปลายจมูก ทายาหรือทานยาแก้สิวแล้วไม่หาย อาจจะมาจากการอักเสบของการเสริมจมูกได้ค่ะ 2. ปลายจมูกแดงใส เห็นซิลิโคนนูนออกมา (ถ้าปลายจมูกเป็นกระดูกอ่อน แต่เห็นขอบกระดูกออกชัดเจนจะปลอดภัยกว่าซิลิโคนมากค่ะ) 3. มีสะเก็ดน้ำเหลืองติดอยู่ในรูจมูกด้านที่ทำการผ่าตัด พอเช็ดออกก็มีมาใหม่ตลอด ไม่หายสนิทแสดงว่าแผลผ่าตัดอาจจะมีปัญหา หรือเป็นการติดเชื้อภายใน 4. จมูกบวมไม่ทราบสาเหตุ หลังจากเสริมจมูกมานานหลายเดือน หลายปี แต่จู่ ๆ จมูกกลับบวมขึ้นมาเฉย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่ไม่ได้กระทบกระแทกหรือทานของแสลงใด ๆ ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีนะคะเพราะอาจติดเชื้อภายในจมูกได้ 5. จมูกเชิดขึ้นเรื่อยๆๆๆ เปลี่ยนรูปทรงไปจากตอนแรกที่ทำมาใหม่ หรือรูปทรงดูแปลกไป 6. มีเลือดหรือน้ำเหลืองซึมจากแผล ไม่หยุด ไม่ว่าจะซึมน้อยหรือมาก ก็อันตรายค่ะ 7. หลังจาก 7 วันหลังผ่าตัด จมูกควรจะยุบลงเรื่อยๆ ถ้ามีอาการบวมขึ้นแนะนำให้พบแพทย์ด่วนค่ะ

จมูกติดเชื้อ

4. จมูกฉีดสารเหลว จมูกที่ฉีดสารเหลวมาก เป็นไปได้สูงที่จะมีการอักเสบ เป็นรอยแดง ติดเชื้อ เป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน หรือ รวมไปถึงการไหลของสารเติมเต็มเหล่านั้นต้องบอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าการฉีดสารเติมเต็มชนิดใดก็มีสิทธิ์อักเสบได้ทั้งนั้นค่ะ โดยเฉพาะการฉีดสารเหลวที่ไม่ได้มาตราฐานยิ่งจะมีปัญหามากค่ะ โดยเฉพาะคนไข้หลายท่านไม่ทราบว่าสารที่ฉีดมาเป็นสารใดกันแน่ ร่างกายของเราอาจมีปฏิกิริยาต่อต้านและเกิดอาการแพ้ได้ ที่สำคัญคือซิลิโคนเหลวไม่สลายไปตามกาลเวลา และไม่สามารถเอาออกได้หมด เนื่องจากซิลิโคนเหลวจะไหลและกระจายตัวไปตามส่วนต่าง ๆ ของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดผลเสียตามมา และจมูกที่มีการเสริมแท่งซิลิโคนไปโดยที่ไม่ได้ขูดสารเหลวเดิมออก จะมีโอกาสมีปัญหาสูงมาก และแพทย์ที่ทำการขูดสารเหลวจะต้องมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก เพราะแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญจะขูดออกได้นิดเดียว หรือขูดผิดวิธีทำให้อักเสบหนังตายหรือบุบ วิธีการสังเกตปัญหาของจมูกที่เคยฉีดสารเหลวมาได้แก่ 1. ผิวหนังที่ฉีดกลายเป็นก้อนแข็ง 2. ผิวตะปุ่มตะป่ำ 3. เกิดพังผืด 4. มีอาการบวม แดง เขียวช้ำ 5. เกิดการอักเสบติดเชื้อ 6. สัดส่วนของบริเวณที่ฉีดเกิดบิดเบี้ยวผิดรูป

จมูกอักเสบจากสารเหลว


5. จมูกไหลลง เชิดขึ้น หรือผิดรูปไปจากเดิม ซิลิโคนที่สามารถขยับได้ เกิดจากการที่แพทย์วางซิลิโคนไม่ถูกชั้นและตำแหน่ง ทำให้ซิลิโคนสามารถขยับและไหลลงมาได้ การแก้ไขจมูกนั้น ต้องแก้ไขด้วยการทำจมูกแบบเปิด Open Rhinoplasty โดยนำซิลิโคนเก่าและพังผืดออก ก่อนปรับโครงสร้างจมูกใหม่ ในกรณีที่ไม่มีอาการติดเชื้อ จะสามารถใส่ซิลิโคนใหม่เข้าไปเลย ทว่าหากมีอาการติดเชื้อร่วมด้วย ต้องมีการล้างฆ่าเชื้อก่อน และอาจจะไม่สามารถใส่ซิลิโคนได้อีก อาจจะต้องใส่เป็นเนื้อเยื่อของคนไข้เองเพื่อความปลอดภัย เช่น เนื้อเยื่อก้นกบ เนื้อเยื่อหน้าผาก ซี่โครง

จมูกผิดรูป

6. จมูกหดรั้ง เมื่อไหร่ที่จมูกดูหดรั้งเห็นรูจมูกชัด จมูกแหงนขึ้น ปลายแหลมเชิด แสดงว่าเริ่มมีปัญหาแล้วนะคะ เป็นผลข้างเคียงของการผ่าตัดที่ผิดพลาดหรือวัสดุในการเสริมจมูก ซึ่งทำให้ปลายจมูกเชิดขึ้นและเห็นรูจมูกได้อย่างชัดเจน เมื่อการผ่าตัดทำให้เกิดความบาดเจ็บภายใน หรือ ร่างกายไม่สามารถรับกับวัสดุเสริมดังกล่าวได้ เนื้อเยื่อด้านในจมูกจะเริ่มตึงและหดตัวทำให้ผิวหนังมีขนาดสั้นลงในท้ายที่สุด สำหรับการทำศัลยกรรมเพื่อแก้ไขนั้นต้องเริ่มจากการถอดวัสดุเสริมอันเก่าออกไปเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงได้อีกในอนาคต สำหรับผู้ที่มีจมูกหดรั้งเข้าขั้นรุนแรงอาจจะต้องใส่ซี่โครงของคนไข้ในการทำฐานจมูกเพื่อห้โครงสร้างฐานของจมูกให้แข็งแรง ควรมีการกำหนดความยาวและโครงสร้างฐานให้แน่นอนก่อน จากนั้นจึงค่อยเพิ่มความสูงโดยการใช้ซิลิโคนตรงสันจมูก และกระดูกอ่อนตรงปลาย หรือใช้เนื้อเยื่อที่มาจากร่างกายคนไข้เองแทนซิลิโคนได้เช่นกัน

จมูกหดรั้ง

การแก้ไขจมูกแบบ Open Rhinoplasty โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจริงๆ จะดีที่สุดในการเสิมจมูกเพราะสามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเหลาฐานจมูก แต่งฮัมป์ จัดเรียงกระดูกอ่อนภายในจมูก แก้ไขจมูกคดให้ตรง และใช้กระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อตัวเองร่วมด้วยในการเสริมจมูกเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของคนไข้ อย่างไรก็ตาม แพทย์ทุกท่านสามารถพูดวิธีการแก้ไขจมูกได้ทุกรูปแบบตามตำรา แต่ทว่าฝีมือที่แท้จริงของศัลยแพทย์ท่านนั้นๆสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดค่ะ ควรจะศึกษา case การผ่าตัด ทั้งที่สำเร็จด้วยดีและมีปัญหา เพื่อทราบถึงฝีมือที่แท้จริงของแพทย์แต่ละท่าน และจำเป็นต้องดูหลังจากผ่าตัดไปแล้ว 1 ปีค่ะ เพราะพบบ่อยว่าแพทย์ที่เสริมมาแล้วดูสวยในช่วงแรกโด่งงอนได้ดีแต่กลับพบปัญหาปลายบางใกล้ทะลุหลังจากเวลาผ่านไปค่ะ

" อยากให้คนไข้ทุกคนสวย บนพื้นฐานของความปลอดภัย"


💓 ฝากติดตามเรื่องราวและสาระดีๆในตอนต่อไปด้วยนะคะ 💓


Aey Surgery ขอบคุณค่ะ


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

และปรึกษาผ่านทางไลน์ @Aeysurgery (มี@ด้วยค่ะ) ได้เลยนะคะ


Add LINE คลิ๊กที่ปุ่ม >>

YOUTUBE คลิ๊กที่ปุ่ม >>

LINE: @Aeysugery IG: @aey_surgery FREE 📣พาบิน FREE 📣ตรวจร่างกาย และ ยา FREE 📣คนดูแล FREE 📣อาหาร FREE 📣พาเที่ยว FREE 📣บริการจองตั๋วเครื่องบิน FREE 📣คืน Tax Refund FREE 📣รถรับ-ส่ง FREE 📣ที่พัก FREE 📣ทรีทเม้นต์ลดบวมหลังผ่าตัด

AEY SURGERY Location : Gangnam-gu, Seoul, South Korea Line ID : @Aeysurgery Facebook : https://www.facebook.com/AeyPatrick/ IG : https://www.instagram.com/aey_surgery/ Blog : aeysurgery.blogspot.com Phone number: +66 952826615 (Thai hotline) e-mail : aeysurgery@gmail.com Youtube Channel : https://www.youtube.com/channel/UCLexD8mSRjZ2Vj4DmvNFwHQ


ดู 10,852 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page